นับตั้งแต่ยุค 80 เป็นต้นมา อัลโปรได้พยายามค้นหาทุกวิถีทางที่จะลดปริมาณน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ ตอนนี้เราจึงมีเครื่องดื่มอัลโปรรสจืดที่อร่อยถูกใจทุกคน เราตั้งใจจะส่งต่อประโยชน์จากพืช และส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกในการลดน้ำตาลที่ง่ายมากเลยนะทุกคน นอกจากนี้ อัลโปรยังมีแคลเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรงอีกด้วย เราขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่หลากหลายและรักษาสมดุลในการรับประทานอาหารให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดี
ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีสารให้ความหวาน
ลดน้ำตาลได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องพยายามด้วยอัลโปรรสจืด ที่ไม่เติมน้ำตาลหรีอสารเพิ่มความหวาน ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
กินแบบไหนก็อร่อยลงตัว
จะเทใส่ในแก้วกินเดี่ยวๆก็ฟิน ผสมในกาแฟก็ดี กินกับซีเรียลก็อร่อยแบบไม่ง้อน้ำตาล หลากหลายและลงตัวสุดๆ
ช้อยส์ที่ใช่ เวลาไม่ต้องการน้ำตาลเพิ่ม
ในเมื่อผลไม้และน้ำผลไม้หวานเพียงพออยู่แล้ว ใครจะต้องการน้ำตาลเพิ่มอีกล่ะ? เครื่องดื่มรสจืด ไม่เติมน้ำตาลของอัลโปรจึงเหมาะอย่างยิ่งกับการทานเป็นของว่างและใส่ในสูตรอาหารต่างๆ
เป้าหมายของอัลโปร คือ เติมน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ของเราให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเราเชื่อในการสร้างสรรค์อาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยจากวัตถุดิบพืช (เช่น ผลไม้ ถั่ว มะพร้าว) ซึ่งมีความหวานเพียงพออยู่แล้ว อัลโปรยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายซึ่งมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน มีทั้งแบบไม่เติมน้ำตาล แบบหวานกำลังดี และแบบหวานมีรสชาติ อัลโปรรสจืด หมายถึง อัลโปรที่ไม่เติมน้ำตาล หรือ ไม่มีน้ำตาลและไม่มีสารให้ความหวานเลย อัลโปรมุ่งเน้นที่จะชูความหวานจากวัตถุดิบธรรมชาติมากกว่าการแต่งเติม จึงเป็นที่มาของการเติมน้ำตาลเข้าไปน้อยที่สุด แต่ยังคงความอร่อยของรสชาติเหมือนเดิม
อัลโปรยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งมีน้ำตาลในปริมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่แบบจืดหรือไม่เติมน้ำตาล แบบน้ำตาลน้อยหวานกำลังดี จนถึงแบบที่หวานเต็มรสชาติอร่อยกลมกล่อม
โดยปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองมีน้ำตาลน้อยกว่าผลิตภัณฑ์จากนมที่คล้ายคลึงกัน เนื่องจากไม่มีน้ำตาลแล็คโตส ซึ่งจะพบในผลิตภัณฑ์จากนมทั่วไป ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองจึงเหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนอาหารเพื่อสุขภาพและต้องการความสมดุลในโภชนาการ ในขณะที่อัลโปรมุ่งเน้นในการใช้น้ำตาลในปริมาณน้อยที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงรักษารสชาติเฉพาะตัวเอาไว้ได้
ไม่แตกต่างกัน น้ำตาลทั้งสองแบบถูกนำไปใช้ในลักษณะเดียวกันในร่างกายคน น้ำตาลทุกประเภท (ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลธรรมชาติที่อยู่ในอาหาร) มีส่วนประกอบเหมือนกัน (โมเลกุลน้ำตาล) ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (มอโนแซ็กคาไรด์ - กลูโคส ฟรุกโตส และกาแล็คโตส) หรือน้ำตาลโมเลกุลคู่ (ไดแซ็กคาไรด์ - ซูโครส แล็คโตส และมอลโตส)นี่คือเหตุผลว่าทำไมน้ำตาล (ทั้งน้ำตาลทรายและน้ำตาลธรรมชาติ) จึงถูกนำไปใช้ในลักษณะเดียวกันในร่างกายคน
องค์การอนามัยโลกได้ปรับลดการบริโภคน้ำตาลจากที่เคยแนะนำให้ไม่เกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ได้รับเป็นร้อยละ 5 ของพลังงานที่ได้รับ ซึ่งถ้าคิดในผู้ใหญ่ที่ได้รับพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน มีดัชนีมวลกายปกติ จะแนะนำให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับ 6 ช้อนชา* *ที่มา ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 โดย สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข